Skip to main content
Piyabut Chairatna Photography Official Website

เป็นการถ่ายรูปรับปริญญาในสตูดิโอให้กับน้องหวานหวาน อรุณณภา พาณิชจรูญ มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (Dhurakij Pundit University) เมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ การถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบในสตูดิโอครั้งนี้ จะเน้นไปในเรื่องของการจัดแสงไฟ เพื่อถ่ายแล้วให้ภาพออกมาดูมีมิติหรือเป็นแนวแฟชั่น ที่ถ้าไปถ่ายรูปข้างนอกไม่อาจจะถ่ายได้แบบนี้ และการถ่ายรูปในวันนี้ เราได้มีการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มให้ด้วยครับ เพื่อเก็บความทรงจำที่ยาวนานตลอดไป

การถ่ายรูปรับปริญญาในสตูดิโอ นั่นคืออะไร หลายคนคงสงสัย ก็ไม่มีอะไรครับ ตรงๆเลย ถ่ายรูปรับปริญญานั่นแหละ แค่ปกติ เราจะเห็นหลายๆคนถ่ายรูปรับปริญญาตามมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นวันซ้อม วันรับจริง หรือ นอกรอบ ซึ้งอันนี้ก็เหมือนกัน แทนที่เราจะถ่ายรูปรับปริญญากันในมหาลัยที่ไม่ต้องสู้แออัดคนเยอะหรือตากแดดตากฝน เราก็เปลี่ยนมาถ่ายกันในสตูดิโอ แอร์เย็นๆ สบายๆ อีกทั้งรอบๆสตูดิโอก็ยังมีวิวสวยๆให้ถ่ายรูปมุมต่างๆให้ด้วยครับ ทั้งindoorและoutdoor 

ฟิล์มที่ใช้ถ่ายในครั้งนี้ มีทั้งฟิล์มสี ฟิล์มหนัง และ ฟิล์มสไลด์ เรียกว่าใช้ครบทุกรูปแบบของฟิล์ม เพราะฟิล์มแต่จะชนิดก็ให้คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน เป็นเสน่ห์ของกล้องฟิล์มที่กล้องดิจิตอลไม่สามารถถ่ายได้  ตัวอย่างอยากฟิล์มหนัง จะเป็นฟิล์มหนังที่หมดอายุไปหลายปีแล้ว หรือ ภาษาชาวกล้องฟิล์มจะเรียกว่าฟิล์มบูด ซึ่งฟิล์มหนังหมดอายุ/ฟิล์มหนังบูด มักจะมีรอยบนตัวฟิล์ม จะมีความเสี่ยงที่จะถ่ายไม่ติด ไม่ได้ภาพเพราะฟิล์มที่หมดอายุนั้น สารเคลือบบนฟิล์มมันได้ค่อยๆเสื่อมลง แต่ฟิล์มที่เราใช้ถ่ายในครั้งนี้เป็นฟิล์มหนังบูดที่เราได้Testมาก่อนแล้วว่ายังถ่ายติด และให้โทนภาพดูมีเสน่ห์เลยได้นำมาใช้ครับ 

การถ่ายรูปฟิล์มดียังไง จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ต่างกับกล้องดิจิตอลทั่วไปหรอกครับ เผลอๆ กล้องดิจิตอลคุณภาพจะดีกว่าด้วยซ้ำ ถ้าพูดถึงเรื่องคุณภาพนะครับ แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่จะเก็บบันทึกความทรงจำหรือการบันทึกเรื่องราวความทรงจำนั่นแล้ว กล้องฟิล์มนี่ทำได้ดีกว่ากล้องดิจิตอลครับ

มันดียังไง กล้องดิจิตอลเป็นอิเล็กทรอนิกส์ เราจะได้ไฟล์ซึ่งจะจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดดิสหรือซีดี ซึ้งสิ่งเหล่านี้แหละครับ มันมีอายุการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เต็มที่ก็ไม่เกิน 30-50ปี

ส่วนกล้องฟิล์มนั่นมันเป็นอนาล็อกและตัวฟิล์มนั่นอายุก็อยู่ได้ไม่ต่ำกว่า50กว่าปี หรือ ถ้าเก็บดีๆแบบถูกวิธี นี่เก็บได้เป็น100ปีเลยด้วยซ้ำ

กลับมาเรื่องการจ้างถ่ายรูปรับปริญญา สมัยนี้ส่วนมากก็จะนิยมจ้างช่างกล้องถ่ายด้วยดิจิตอลกัน คือไม่คิดอะไรมา ถ่ายมาอีก2-3วันก็เห็นรูป เอารูปโพสต์ลงโซเชียล ก็แค่นั้น แต่พอเวลานานไป ระบบโซเชียลล่ม ข้อมูลก็หาย หรือ รูปที่ถ่ายไว้อัดมาแล้ว แต่ถูกน้ำท่วม เสียหมดเลย นั่นแหละครับ ความทรงจำครั้งเดียวในชีวิตก็แทบหายไปหมดเลย

เพราะฉนั้นเราจึงอยากให้ความสำคัญกับความทรงจำที่ส่วนมากจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็น งานรับปริญญา, งานบวช หรือ งานแต่งงาน ควรจะมีการถ่ายรูปจากกล้องฟิล์มเก็บไว้สักหน่อยก็ดีครับ

ในอนาคตเวลาผ่านไปหลายสิบปี รุ่นสู่รุ่น หลายของเรา เหลนของเรา มาค้นกล่องลังเก็บของ ได้เห็นฟิล์มเอาไปสแกนใหม่ก็จะได้เห็นเรื่องราวของพ่อแม่ปู่ย่าตายายครับ

รูปภาพไม่จำเป็นต้องสวยงาม คมชัด ด้วยคุณภาพเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องราวในอดีตนั้นต่างหากที่สำคัญกว่า ความทรงจำเก่าๆจะกลับมาสู่สายตาในปัจจุบันอีกครั้ง

FYI สำหรับในครั้งนี้ เราได้ใช้กล้องฟิล์มอนาล็อก ซึ่งเป็นกล้อง Medium Format ของตระกูล Hasselblad ฟิล์มที่ใช้ก็เป็นฟิล์ม 120 รูปที่ได้ต่อม้วนจะมีเพียง 12รูป กับฟิล์ม 135แต่ถ่ายในกล้องฟิล์ม120 รูปจะถ่ายติดรูหนามเตยด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่ามันก็ดูมีเสน่ห์เหมือนกันครับ ส่วนรูปจากฟิล์ม120จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสครับ เราได้ล้างเองสแกนเองและขบวนการที่วุ่นวายนิดหน่อยนี้ แต่พอแลกกับการเก็บความทรงจำให้อยู่เหนือกาลเวลานั้นมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกครับ