เป็นการถ่ายรูปรับปริญญาในสตูดิโอให้กับน้องไข่มุก อดีตสมาชิกวงBNK48 รุ่นที่1 บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (Bangkok University) เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน2567ครับ การถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบในสตูดิโอครั้งนี้ มีทั้งถ่ายในสตูดิโอแล้วจัดแสงไฟและถ่ายแสงธรรมชาติ และการถ่ายรูปในวันนี้ เราได้ถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มเป็นหลักครับ เพื่อเก็บความทรงจำที่ยาวนานตลอดไป
การถ่ายรูปรับปริญญาในสตูดิโอ นั่นคืออะไร หลายคนคงสงสัย ก็ไม่มีอะไรครับ ตรงๆเลย ถ่ายรูปรับปริญญานั่นแหละ แค่ปกติ เราจะเห็นหลายๆคนถ่ายรูปรับปริญญาตามมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นวันซ้อม วันรับจริง หรือ นอกรอบ ซึ้งอันนี้ก็เหมือนกัน แทนที่เราจะถ่ายรูปรับปริญญากันในมหาลัยที่ไม่ต้องสู้แออัดคนเยอะหรือตากแดดตากฝน เราก็เปลี่ยนมาถ่ายกันในสตูดิโอ แอร์เย็นๆ สบายๆ อีกทั้งรอบๆสตูดิโอก็ยังมีวิวสวยๆให้ถ่ายรูปมุมต่างๆให้ด้วยครับ ทั้งindoorและoutdoor
ฟิล์มที่ใช้ถ่ายในครั้งนี้ มีทั้งฟิล์มสี ฟิล์มหนัง และ ฟิล์มสไลด์ เรียกว่าใช้ครบทุกรูปแบบของฟิล์ม เพราะฟิล์มแต่จะชนิดก็ให้คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน เป็นเสน่ห์ของกล้องฟิล์มที่กล้องดิจิตอลไม่สามารถถ่ายได้ ตัวอย่างอยากฟิล์มหนัง จะเป็นฟิล์มหนังที่หมดอายุไปหลายปีแล้ว หรือ ภาษาชาวกล้องฟิล์มจะเรียกว่าฟิล์มบูด ซึ่งฟิล์มหนังหมดอายุ/ฟิล์มหนังบูด มักจะมีรอยบนตัวฟิล์ม จะมีความเสี่ยงที่จะถ่ายไม่ติด ไม่ได้ภาพเพราะฟิล์มที่หมดอายุนั้น สารเคลือบบนฟิล์มมันได้ค่อยๆเสื่อมลง แต่ฟิล์มที่เราใช้ถ่ายในครั้งนี้เป็นฟิล์มหนังบูดที่เราได้Testมาก่อนแล้วว่ายังถ่ายติด และให้โทนภาพดูมีเสน่ห์เลยได้นำมาใช้ครับ
การถ่ายรูปฟิล์มดียังไง จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ต่างกับกล้องดิจิตอลทั่วไปหรอกครับ เผลอๆ กล้องดิจิตอลคุณภาพจะดีกว่าด้วยซ้ำ ถ้าพูดถึงเรื่องคุณภาพนะครับ แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่จะเก็บบันทึกความทรงจำหรือการบันทึกเรื่องราวความทรงจำนั่นแล้ว กล้องฟิล์มนี่ทำได้ดีกว่ากล้องดิจิตอลครับ
มันดียังไง กล้องดิจิตอลเป็นอิเล็กทรอนิกส์ เราจะได้ไฟล์ซึ่งจะจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดดิสหรือซีดี ซึ้งสิ่งเหล่านี้แหละครับ มันมีอายุการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เต็มที่ก็ไม่เกิน 30-50ปี
ส่วนกล้องฟิล์มนั่นมันเป็นอนาล็อกและตัวฟิล์มนั่นอายุก็อยู่ได้ไม่ต่ำกว่า50กว่าปี หรือ ถ้าเก็บดีๆแบบถูกวิธี นี่เก็บได้เป็น100ปีเลยด้วยซ้ำ
กลับมาเรื่องการจ้างถ่ายรูปรับปริญญา สมัยนี้ส่วนมากก็จะนิยมจ้างช่างกล้องถ่ายด้วยดิจิตอลกัน คือไม่คิดอะไรมา ถ่ายมาอีก2-3วันก็เห็นรูป เอารูปโพสต์ลงโซเชียล ก็แค่นั้น แต่พอเวลานานไป ระบบโซเชียลล่ม ข้อมูลก็หาย หรือ รูปที่ถ่ายไว้อัดมาแล้ว แต่ถูกน้ำท่วม เสียหมดเลย นั่นแหละครับ ความทรงจำครั้งเดียวในชีวิตก็แทบหายไปหมดเลย
เพราะฉนั้นเราจึงอยากให้ความสำคัญกับความทรงจำที่ส่วนมากจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็น งานรับปริญญา, งานบวช หรือ งานแต่งงาน ควรจะมีการถ่ายรูปจากกล้องฟิล์มเก็บไว้สักหน่อยก็ดีครับ
ในอนาคตเวลาผ่านไปหลายสิบปี รุ่นสู่รุ่น หลายของเรา เหลนของเรา มาค้นกล่องลังเก็บของ ได้เห็นฟิล์มเอาไปสแกนใหม่ก็จะได้เห็นเรื่องราวของพ่อแม่ปู่ย่าตายายครับ
รูปภาพไม่จำเป็นต้องสวยงาม คมชัด ด้วยคุณภาพเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องราวในอดีตนั้นต่างหากที่สำคัญกว่า ความทรงจำเก่าๆจะกลับมาสู่สายตาในปัจจุบันอีกครั้ง
FYI สำหรับในครั้งนี้ เราได้ใช้กล้องฟิล์มอนาล็อก ซึ่งเป็นกล้อง Medium Format ของตระกูล Hasselblad ฟิล์มที่ใช้ก็เป็นฟิล์ม 120 รูปที่ได้ต่อม้วนจะมีเพียง 12รูป กับฟิล์ม 135แต่ถ่ายในกล้องฟิล์ม120 รูปจะถ่ายติดรูหนามเตยด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่ามันก็ดูมีเสน่ห์เหมือนกันครับ ส่วนรูปจากฟิล์ม120จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสครับ เราได้ล้างเองสแกนเองและขบวนการที่วุ่นวายนิดหน่อยนี้ แต่พอแลกกับการเก็บความทรงจำให้อยู่เหนือกาลเวลานั้นมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกครับ