

















Kodak Portra 160VC / 160NC
คู่แฝดที่มีหัวใจต่างกัน
ก่อนยุค Portra ใหม่ (ที่รวมสูตร VC/NC เป็นรุ่นเดียว)
Kodak เคยแบ่งฟิล์มพอร์เทรตระดับมืออาชีพออกเป็นสองโทน
• Portra 160VC (Vivid Color) – สีเข้ม คอนทราสต์จัดเล็กน้อย เหมาะกับแสงธรรมชาติหรือแฟชั่นที่ต้องการความสดของโทนผิว เสื้อผ้า และฉากหลัง
• Portra 160NC (Natural Color) – โทนสีเนียน นุ่ม เหมาะสำหรับพอร์เทรตที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ ดูอบอุ่น เรียบง่าย
ทั้งสองรุ่นให้ grain ที่เล็ก ละเอียด และมีความแม่นยำในการเก็บโทนผิวคนได้ดี จนกลายเป็นฟิล์มหลักในสาย portrait ยุค 90s–2000s
ถูกใช้ทั้งในงานสตูดิโอ นิตยสาร และงานพรีเวดดิ้งจำนวนมาก
Kodak Portra 160VC (Expired Film)
แม้วันนี้ 160VC จะถูกเลิกผลิตไปแล้ว แต่บางม้วนยังหลงเหลือในตลาด — ในฐานะฟิล์ม “หมดอายุที่ยังถ่ายได้”
ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา หากแช่เย็นอย่างดี ภาพที่ได้ยังคงให้สีสันเข้มข้น คอนทราสต์จัดพอดีในแบบที่ Portra ยุคใหม่ไม่มีอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อหมดอายุนาน (10 ปีขึ้นไป) ฟิล์มอาจแสดงอาการเฟด ความสดหาย หรือเบี้ยวโทนเล็กน้อย
หลายช็อตจึงกลายเป็นภาพที่มี “อารมณ์ย้อนยุคโดยธรรมชาติ”
ให้ความรู้สึกเหมือนดูแมกกาซีนยุคฟิล์มจริง ไม่ต้องแต่งเพิ่ม
Portra 160VC ยุคเก่า…อาจไม่สมบูรณ์แบบในทุกเฟรม แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ของวันวาน
เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความรู้สึก “ถ่ายแล้วไม่เหมือนใคร” ในโลกภาพซ้ำซ้อนของยุคดิจิทัล
Film : Kodak Portra 160VC Expired 08.2011 [220]
Len : Hasselblad Carl Zeiss 110mm f2 Planar T* FE
Body : Hasselblad 202FA
Scan : Fuji Frontier SP-3000
“ฟิล์มหมดอายุมากกว่า 14 ปี แต่ยังเก็บในตู้เย็น สีเฟดบางเล็กน้อย แต่ยังให้โทนอบอุ่นน่าสนใจ โดยเฉพาะกับแสงธรรมชาติยามบ่าย”
คำเตือน: การถ่ายด้วยฟิล์มบูดมีความเสี่ยง — เสี่ยงที่จะไม่ได้ภาพเลย
ผมมีโอกาสได้ทดลองฟิล์มหมดอายุเมื่อปีก่อน ประมาณ 3 ม้วน ลองทั้งแบบชดเชย ISO ตอนถ่ายเพียงอย่างเดียว และแบบที่ชดเชยทั้ง ISO และเวลาล้าง (ให้เวลาล้างนานขึ้น) ก็ได้ผลลัพธ์แตกต่างกันไปตามสภาพของฟิล์ม
ส่วนตัวแยกความหมายระหว่าง “ฟิล์มหมดอายุ” กับ “ฟิล์มบูด” นะครับ
• ถ้าหมดอายุไม่เกิน 5 ปี โดยเฉพาะถ้าเก็บในที่เย็น ยังถ่ายได้ปกติ สีและคอนทราสต์อาจลดลงเล็กน้อย
• แต่ถ้าเกิน 10 ปี หรือเก็บไม่ดี จนสารเคลือบบนเนื้อฟิล์มเสื่อมสภาพ อาจมีกลิ่นเปรี้ยวแรง และภาพที่ได้ก็อาจแปรปรวนเกินคาดเดา แบบนี้ถึงจะเรียกว่า “ฟิล์มบูด” จริง ๆ
การลองฟิล์มบูดก็สนุกดีครับ ถ้าไม่คาดหวังความแม่นยำ แต่อย่าลืมว่า…มันคือการเสี่ยงดวงแบบจริงจัง