Skip to main content
Piyabut Chairatna Photography Official Website

Hasselblad 503CW × Planar 80mm f/2.8 × Fomapan 400

เมื่อกล้องตัวเก่า เลนส์มีฝ้า และฟิล์มราคามิตรภาพ…พอรวมกันแล้วให้ภาพที่ซื่อสัตย์อย่างประหลาด

การถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบครั้งนี้ เป็นงานที่อยากลอง “พาอุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ” ออกไปเดินเล่นดูบ้าง
ชุดที่ใช้คือ Hasselblad 503CW คู่กับเลนส์ Carl Zeiss Planar f/2.8 80 mm C Synchro Compur ตัวที่มีคราบฝ้าเกาะด้านในแบบล้างไม่ออก ทำใจแล้วว่าคงไม่คมเท่าที่ควร แต่ก็อยากรู้ว่าในสนามจริงมันจะเล่าเรื่องแบบไหน

ฟิล์มที่เลือกคือ Fomapan 400
ฟิล์มขาวดำราคาย่อมเยา โทนดิบ ติดเกรนเล็กน้อย แต่ซื่อตรงต่อสภาพแสงมากกว่าที่หลายคนคิด ซึ่งครั้งนี้ล้างด้วย Ilfosol 3 (1+9) 8.30 min แล้วสแกนเองบน Fuji Frontier SP-3000 ตัวประจำในสตูดิโอ

ความไม่สมบูรณ์แบบ…กลายเป็นลายเซ็นตรงหน้า

เมื่อได้เห็นเนกาทีฟ สิ่งแรกที่เห็นไม่ใช่ “ข้อเสียของฝ้าในเลนส์” แต่เป็นโทนที่นุ่มขึ้นเล็กน้อย เหมือนมีหมอกบางๆ ที่ทำให้บรรยากาศของภาพรับปริญญาดูอบอุ่นและย้อนยุคมากกว่าเดิม

Carl Zeiss Planar f/2.8 80 mm C Synchro Compur ตัวสมบูรณ์แบบอาจให้ความคมกริบ แต่ ตัวนี้ที่มีฝ้า…
ให้ความรู้สึก “ละมุนแบบตั้งใจไม่ได้”
เป็น character ที่เกิดจากกาลเวลา และเลียนแบบไม่ได้ด้วยฟิลเตอร์ดิจิทัล

Fomapan 400 – ฟิล์มที่ซื่อสัตย์กับแสงและความจริง

Foma 400 อาจไม่ใช่ฟิล์มขาวดำที่หรูหราที่สุด แต่เมื่ออยู่ในระบบ Hasselblad แล้ว มันกลับดึง texture ของผิว เสื้อครุย และสภาพแสงกลางแจ้งออกมาได้ชัดมาก
เกรนไม่ถึงกับหยาบ แต่ยังคงคาแรกเตอร์ฟิล์มแบบยุโรป ดิบ ตรง และไม่พยายามทำตัวเนียนเกินไป

โทนเทานุ่มที่ได้หลังล้างด้วย Ilfosol 3 ทำให้ภาพดู “เข้าถึงง่ายแต่มีน้ำหนัก”
เป็น combination ที่ลงตัวกว่าที่คาดไว้เยอะ

Frontier SP-3000 – เครื่องสแกนที่ผ่านเวลามาพอๆ กับกล้อง

แม้จะเป็นเครื่องรุ่นเก่า แต่ Frontier SP-3000 ยังเป็นหนึ่งในเครื่องสแกนที่ถ่ายทอดโทนขาวดำได้ “ละมุนแต่มีรายละเอียด” ดีที่สุดตัวหนึ่ง
มันให้ contrast ที่กำลังพอดี ไม่พุ่งจนเสีย texture และไม่แบนจนขาด character

ภาพรับปริญญาที่ได้จึงออกมาดู timeless ได้โดยไม่ต้องพยายามปรุงอะไรเพิ่ม

สุดท้ายแล้ว…ภาพที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์แบบของอุปกรณ์

Hasselblad ที่ผ่านหลายมือ
เลนส์ที่มีฝ้า
ฟิล์มราคาเบา
น้ำยาและเครื่องสแกนที่ใช้มายาวนาน

ทั้งหมดนี้รวมกันกลายเป็นภาษาภาพอีกแบบหนึ่ง
ภาษาที่เล่าความทรงจำตรงไปตรงมา ไม่ซ่อน ไม่ปรุง และไม่แข่งขันกับใคร

บางครั้งสิ่งที่ไม่ perfect นั่นแหละที่ทำให้ภาพหนึ่งภาพ “มีชีวิต”